3 เทคนิค ชีวิตนี้มีได้ทุกอย่าง
ทุกคนสามารถสร้างทุกอย่างขึ้นมาได้ ให้กับชีวิตของตนเอง อยากมี อยากได้อะไรทุกคนสามารถสร้างได้ด้วยมือของตนเอง
“คนไม่มีอะไร” เป็นภาวะที่น่าสงสารที่สุดในชีวิต มีคนมากมายพยามยามต่อสู่ที่จะพาตนเองหนีพ้นจากคำว่าไม่มีอะไร
ขณะที่คนมากมายเช่นกันที่สามารถยอมรับและอยู่กับความไม่มีอะไรได้อย่างใจเย็น เพราะคนเหล่านั้นเชื่อว่า.........
พวกเขาแค่ยอมจำนนให้กับโชคชะตา เมื่อโชคชะตากำหนดมาแล้วให้พวกเขามีชะตาขีวิตแบบนี้ ก็ย่อมไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงมันได้
แต่ความจริงแล้วคนทุกคนสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ทั้งนั้น
ถ้าหากเราตัดสินใจที่จะทำมันจริงๆ
ลองย้อนนึกกลับไปถึงอดีตที่ผ่านมา หลายคนคงพบว่า...
เราเคยได้ผ่านการตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่างมาแล้วหลายครั้ง เราเริ่มด้วยการบอกตนเองว่า
“เราปล่อยให้ชีวิตเราเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว เราจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว”
1. ตัดสินใจ
ถึงเวลาแล้วที่ต้องตัดสินใจ ทบทวนถึงชีวิตที่ผ่านมา และมองชีวิตที่กำลังจะเป็น กำลังมี และกำลังทำในปัจจุบัน.... มองให้เห็นว่ามีอะไรที่น่าพอใจหรือเปล่า ทุกวันนี้มีชีวิตอยู่ไปวันๆ หรือเปล่า ทำงานสิ้นเดือนรับเงินเดือนแค่นั้นเหรอ ชีวิตนี้ได้พัฒนาอะไรให้กับตัวเราบ้าง มีสิ่งไหนที่เราสนใจทำแล้วมีความสุขจริงๆ เราสร้างคุณค่าให้กับตัวเราเองแล้วหรือยัง
ตัดสินใจไปเลย บอกตัวเองไปเลยว่า “เราจะไม่เห็นตัวเองบนความไม่มีอะไรต่อไปอีก”
ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องตัดสินใจ
จงเข้าถึงความรู้สึกของการตัดสินใจจริง ๆ ตั้งแต่วินาทีนี้ เริ่มต้นด้วยการสูดหายใจลึกๆ มองไปข้างหน้าอย่างตั้งมั่น คุณจะเห็นหนทางหรือทางเลือกปรากฎขึ้นมาเรียงรายขึ้นมาเบื้องหน้าของคุณให้คุณเลือกเอาสักหนึ่งอย่าง เมื่อคุณได้คำตอบแล้วว่าคุณจะเลือกสิ่งนี้
วาดภาพถึงความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น วาดภาพถึงสิ่งที่คุณจะได้รับต่อจากความสำเร็จนั้น เงินทอง บ้าน รถ ความมั่งคั่งร่ำรวย ความสุข ชีวิตในแบบที่คุณฝันอยากมีมาโดยตลอด
2. สร้างจินตนาการ
ให้คุณมองภาพชีวิตในปัจจุบันของคุณ คุณใช้เวลามานานเท่าไหร่แล้ว
ในการนั่งสงสัยทุกวันว่า ทำไมชีวิตของคุณถึงเป็นแบบนี้
ทั้ง ๆ ที่คำตอบมันก็ง่ายนิดเดียว นั้นคือตัวคุณเองเป็นผู้กำหนดทุกอย่างเรื่อยมา
คุณคิดอย่างไร คุณทำอย่างนั้น
คุณทำอย่างไร คุณได้อย่างนั้น
ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณได้ รวมกันเป็นชีวิตคุณในวันนี้
เมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้คุณมีได้ทุกอย่าง จากนั้นให้คุณ
วาดภาพถึงความสำเร็จที่จะเกิดขึ้น ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่คู่ควรกับคุณ
วาดภาพถึงสิ่งที่คุณจะได้รับต่อจากความสำเร็จนั้น เงินทอง บ้าน รถ ความมั่งคั่งร่ำรวย ความสุข ชีวิตในแบบที่คุณฝันอยากมีมาโดยตลอด
และพูดถึงภาพความสำเร็จที่คุณได้รับทุกวัน พูดออกมาอย่างมีความสุขกับความสำเร็จที่คุณได้สร้างมันขึ้นมาด้วยตัวคุณเอง
3. ลงมือทำ
ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับความเชื่อกำหนด
แต่หากปราศจากซึ่งการลงมือทำ สิ่งที่คุณคิดและเชื่อก็ไม่มีความหมาย
หากคุณวาดภาพความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่คุณทำไม่เป็น
ทั้งหมดที่คุณวาดก็ไม่มีความหมาย
คุณต้อง ทำ.... ไม่ใช่ลองทำ
จงก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกอย่างเชื่อมั่น
คุณไม่จำเป็นต้องมองเห็นบันไดทั้งหมด
ขอแค่ก้าวขึ้นขั้นแรกไปก่อนเท่านั้น
คุณลองนึกภาพตัวคุณเองพูดประโยคที่ว่า
ฉันจะทำ กับคำว่า ฉันจะลองทำ
ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไร ในขณะที่พูดสองประโยคนี้
ถ้าเราพูดว่า “เราจะลองทำ” เราจะมีพลังและความมุ่งมั่นน้อยกว่าการพูดว่า “เราจะทำ”
#เมื่อเราตัดสินใจที่จะ ลองทำ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือ
· แค่ลองดู ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร
· มันอาจไม่สำเร็จก็ได้ เพราะเราไม่เคยทำมาก่อน เพราะมันยาก มีข้ออ้างเยอะแยะ
· เราไม่พยายาม ไม่มุ่งมั่นมากเท่าที่ควร ทำแค่ที่ทำได้
· ถ้าเราล้มเหลว เราก็ยอมรับได้ ไม่เสียใจ ไม่ข้องใจ
· ถ้าเราล้มเหลว ก็เลิกทำ ไปหาอย่างอื่นทำ
แต่
#เมื่อเราตัดสินใจที่จะ ทำ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือ
· เราต้องทำจริงและต้องทำให้สำเร็จ
· มันต้องสำเร็จแน่นอน เพราะเราเชื่อมั่นว่าเราทำได้ เราจะหาเหตุผลว่าเราทำได้
· เราใช้ความพยายามและมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีปัญหาและอุปสรรคใดๆ
· ถ้าเราล้มเหลว เราก็ยังพยายามต่อไป พยายามที่จะหาสาเหตุของความล้มเหลวนั้น ค้นหาวิธีใหม่ เพื่อที่จะให้ผลออกมาเป็นความสำเร็จเท่านั้น
· เราไม่มีวันเลิกทำ เพราะมันคือเป้าหมายของเรา
ตลอดชึวิตที่ผ่านมาคุณเคยผ่านการ “ลองทำ” มากี่ครั้งแล้ว?
แล้วการ “ล้มเลิก” ละกี่ครั้งแล้ว?
มันถึงเวลาหรือยังที่คุณจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างแบบจริงจัง
เริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน ทำด้วยความเชื่อ
นำศักยภาพและความเพียรพยายามออกมาใช้อย่างเต็มที่
ปฎิเสธการยอมแพ้ ต่ออุปสรรคปัญหาทั้งปวง
และพาตัวเองไปสู่การประสำความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
นับแต่วันนี้ไม่มีเวลาให้คุณลองทำอีกต่อไป คุณต้องทำจริง ๆ เท่านั้น
และต้องทำให้สำเร็จ
ถ้าคุณปรารถนาที่จะทำให้ชีวิตเกิดจุดเปลี่ยน
มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณแล้วว่า...คุณจะตัดสินใจเริ่มต้นเป็นผู้ทำ
และ ผู้ประสบความสำเร็จ เมื่อไหร่
หากคุณวาดภาพความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่คุณทำไม่เป็น
ทั้งหมดที่คุณวาดก็ไม่มีความหมาย
คุณต้อง ทำ.... ไม่ใช่ลองทำ
จงก้าวขึ้นบันไดขั้นแรกอย่างเชื่อมั่น
คุณไม่จำเป็นต้องมองเห็นบันไดทั้งหมด
ขอแค่ก้าวขึ้นขั้นแรกไปก่อนเท่านั้น
คุณลองนึกภาพตัวคุณเองพูดประโยคที่ว่า
ฉันจะทำ กับคำว่า ฉันจะลองทำ
ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างไร ในขณะที่พูดสองประโยคนี้
ถ้าเราพูดว่า “เราจะลองทำ” เราจะมีพลังและความมุ่งมั่นน้อยกว่าการพูดว่า “เราจะทำ”
#เมื่อเราตัดสินใจที่จะ ลองทำ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือ
· แค่ลองดู ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร
· มันอาจไม่สำเร็จก็ได้ เพราะเราไม่เคยทำมาก่อน เพราะมันยาก มีข้ออ้างเยอะแยะ
· เราไม่พยายาม ไม่มุ่งมั่นมากเท่าที่ควร ทำแค่ที่ทำได้
· ถ้าเราล้มเหลว เราก็ยอมรับได้ ไม่เสียใจ ไม่ข้องใจ
· ถ้าเราล้มเหลว ก็เลิกทำ ไปหาอย่างอื่นทำ
แต่
#เมื่อเราตัดสินใจที่จะ ทำ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปก็คือ
· เราต้องทำจริงและต้องทำให้สำเร็จ
· มันต้องสำเร็จแน่นอน เพราะเราเชื่อมั่นว่าเราทำได้ เราจะหาเหตุผลว่าเราทำได้
· เราใช้ความพยายามและมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะมีปัญหาและอุปสรรคใดๆ
· ถ้าเราล้มเหลว เราก็ยังพยายามต่อไป พยายามที่จะหาสาเหตุของความล้มเหลวนั้น ค้นหาวิธีใหม่ เพื่อที่จะให้ผลออกมาเป็นความสำเร็จเท่านั้น
· เราไม่มีวันเลิกทำ เพราะมันคือเป้าหมายของเรา
ตลอดชึวิตที่ผ่านมาคุณเคยผ่านการ “ลองทำ” มากี่ครั้งแล้ว?
แล้วการ “ล้มเลิก” ละกี่ครั้งแล้ว?
มันถึงเวลาหรือยังที่คุณจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างแบบจริงจัง
เริ่มต้นด้วยเป้าหมายที่ชัดเจน ทำด้วยความเชื่อ
นำศักยภาพและความเพียรพยายามออกมาใช้อย่างเต็มที่
ปฎิเสธการยอมแพ้ ต่ออุปสรรคปัญหาทั้งปวง
และพาตัวเองไปสู่การประสำความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
นับแต่วันนี้ไม่มีเวลาให้คุณลองทำอีกต่อไป คุณต้องทำจริง ๆ เท่านั้น
และต้องทำให้สำเร็จ
ถ้าคุณปรารถนาที่จะทำให้ชีวิตเกิดจุดเปลี่ยน
มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณแล้วว่า...คุณจะตัดสินใจเริ่มต้นเป็นผู้ทำ
และ ผู้ประสบความสำเร็จ เมื่อไหร่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น