วันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ไม่จำเป็นอย่าจอด เป็นกลลวง


มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง สำหรับข่าวพระโบกรถ แล้วขอปัจจัย อย่างล่าสุด หนุ่มรายหนึ่ง โพสต์ลงเฟสบุ๊ก ระบุว่า ผมเดินทางจากกทม.ไปอุดรธานี ได้เจอพระสองรูปยืนโบกรถข้างทาง เลยน้ำพองจะเข้าอุดร ก็เลยจอดรับ ก่อนขึ้นก็ถามว่าท่านจะไปไหน ?? ท่านก็บอกว่าจะไปโนนสะอาด ก่อนถึงกุมภวาปี พอถึงก็จอดให้ลง และพระก็ให้พร พอจะขึ้นรถไปต่อ ท่านก็ขอปัจจัยจะไปซื้ออุปกรณ์เดินธุดงค์ในป่า ก็เลยถวายไป500 จนต่อมา คนที่ทำงานกลับอุดรเหมือนกัน เจอพระโบกรถเหมือนกัน และก็ขอปัจจัยเหมือนกันเป๊ะ



นอกจากหนุ่มรายนี้แล้ว ยังมีสาวรายหนึ่ง เล่าเหตุการณ์คล้ายๆกันว่า

ขับรถไปรับสามีที่บ้านหนองเม็ก อ.หนองหาน อุดรธานี ขณะที่ขับผ่านบ้านหนองเม็กพบว่ามีพระสงฆ์ 1 รูป ยืนข้างถนนโบกรถยนต์ แต่ไม่มีใครจอด สามีจึงรับมาแล้วกลับเส้นทางเดิม โดยครั้งนี้ก็ยังเจออีก ตนนึกขึ้นได้ว่าเป็นพระที่เจอเมื่อปีที่แล้ว ตนจึงจอดรับและพระก็บอกให้ไปส่ง ซึ่งตนได้ไปส่งแต่ไม่ถึงที่หมาย เพราะไปคนละเส้นทางกัน จึงจอดให้พระรูปดังกล่างลงข้างทางเพื่อให้ไปต่อรถ จากนั้นพระก็ขอเงินค่ารถโดยสาร ตนเลยให้ไป200บาท แต่พระบอกไม่พอต้อง 300 บาท ถึงจะพอค่าเดินทาง ด้วยความตกใจตนจึงให้ไป 300 บาท จากนั้นเมื่อขับรถผ่านถนนเส้นนี้ก็จะพบพระมายืนโบกรถอยู่หลายครั้ง และคิดว่าไม่น่าใช่พฤติกรรมของพระสงฆ์ตามปกติจึงได้โพสต์เตือนประชาชน



ส่วนอีกราย ก็เจอเหมือนกัน แต่เป็นคนละพื้นที่ โดยเล่าว่าเตือนภัยครับ เจอมากับตัวเองนะครับ ผมเดินทางไปเที่ยวอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ขาไปขับรถไปใกล้ถึงเขตอำเภอไทรโยค (ช่วงที่สองข้างถนนแทบไม่มีบ้านคนหรือร้านค้าอะไรเลย) ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ได้เห็นพระ 3 รูป (ไม่รู้พระจริงหรือปลอม) โบกรถแล้วทำมือ ทำท่ายกแก้วกินน้ำ เพื่อทำให้เราเข้าใจว่าท่านหิวน้ำ พอดีในรถมีแต่น้ำที่เปิดกินแล้ว ผมเลยขับเลยไปประมาณ 1กม. เจอร้านค้าเล็กๆ เลยแวะซื้อน้ำเปล่า6ขวด สปอนเซอร์ อีก3 ขวด และวนรถกลับมา ตั้งใจเอาน้ำมาถวาย พอถวายน้ำเสร็จ พระก็ให้พร และชวนคุยถามนั่นนี่

แล้วก็บอกว่ากำลังจะไปจังหวัดชัยนาท ไหนๆโยมก็มีจิตใจเมตตาแล้วก็อยากจะให้โยมช่วยบริจาคปัจจัยเพื่อเป็นค่ารถ ในใจก่อนหน้านี้ ก็กะว่าจะถวายปัจจัยให้อยู่แล้ว เพราะคิดว่าท่านคงไม่มีเงิน เพราะเดินผ่านร้านค้ามาแล้ว ถ้าท่านมีเงินคงซื้อน้ำกินเอง ก็เลยหยิบเงินถวายไป100 บาท แล้วก็กลับรถมุ่งหน้าต่อ พอขับมาได้ซักประมาณไม่ถึง5กม. ขับมาเจอพระอีก2 รูป

ทำท่าเดิม พอดีแวะเติมน้ำมันมา ได้น้ำฟรีมาขวดนึง ผมก็เลยให้น้องลงเอาน้ำไปให้แล้วผมก็ถ่ายรูปไว้ สรุปว่าพูดเหมือนกันเลย คือขอเงินค่ารถ พอได้ยินปุ๊บเราก็รู้ทันทีเลยว่า ไม่ใช่แล้ว พระปลอมแน่ๆ แต่น้องดันมือไว หยิบเงินให้ไปอีก40 บาท ห้ามไม่ทัน แถมพระทำหน้าเหมือนไม่พอใจกับเงินแค่40 แล้วก็ขับ


รถออกมา เริ่มคุยกันในรถว่าพระปลอมแน่ๆ แต่ก็คิดซะว่าทำทานไป ระหว่างทาง ก็เจออีก ทำท่าเดียวกัน คือยกมือทำท่ากินน้ำ เราก็เลยมั่นใจทันทีเลยว่าเจอมิจฉาชีพหลอกแน่นอน เลยอยากจะฝากเตือนเพื่อนๆที่ไปเที่ยวตามต่างจังหวัด ถ้าเจอ พระโบกรถทำท่าขอน้ำดื่ม ไม่ต้องจอดนะครับ ขับไปเลยไม่ต้องสงสาร หรือถ้าทำใจที่จะขับเลยไปไม่ได้จริงๆ เพราะบางทีก็อาจจะเป็นพระจริงๆ ก็ได้ เราก็แค่จอดถวายน้ำ แต่ถ้ามีการเอ่ยปากขอเงินเมื่อไหร่ ให้รู้ตัวได้เลย ว่าพระปลอมแน่นอน

ขอบคุณที่มา เฟสบุ๊ก tonphai surayanan ,ONEWS

วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ภรรยาที่ดีต้องดุเป็น ครอบครัวจึงได้ดี


การที่คนสองคนพัฒนาความสัมพันธ์จาก เพื่อน แฟน ไปจนถึง
การเป็น สามีภรรยากัน แน่นอนว่าต้องประกอบด้วยหลายสิ่ง
หลายอย่าง ทั้งความรัก ความเข้าใจกันและกัน หน้าที่การงาน
 รวมไปถึงครอบครัวของทั้งสองฝ่าย
และสื่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำยังไงให้การใช้ชีวิตคู่มีแต่ความ
สุข ไม่มีคำว่าเลิก คุณผู้ชายทั้งหลายเคยคิดหรือไม่ว่า ทำไม
คนรักของเรา มักอารมณ์ไม่ดีอยู่เสมอ และเชื่อไหมว่าในเวลาที่
เราจะเลือกคนรักที่ดีนั้นควรมองจากสิ่งนี้

มีคำกล่าวว่า การมองหาภรรยา ต้องหาผู้หญิงที่ชอบ “อารมณ์
เสีย” เพราะว่าผู้หญิงที่ไม่เคยอารมณ์เสียหรือวีนใส่ก็เหมือน 
“น้ำเปล่า” แก้วหนึ่ง สามารถดับกระหายได้ แต่ไร้รสชาติ
ดังนั้น ผู้หญิงที่มี “อารมณ์ฉุนเฉียว” ก็เปรียบเหมือนสุรา ทั้งน่า
ตื่นเต้นและน่าจดจำมาก แต่ในความเป็นจริงนั้น การที่เธอ
อารมณ์เสียก็เพื่อคุณจริงๆ ให้ลองคิดดูนะ เมื่อคุณมาสาย เธอ
จะโกรธคุณมาก เป็นเพราะเธอกังวล กลัวว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่คาด
คิดขึ้นกับคุณ
เป็นเพราะเธอเป็นห่วงสุขภาพของคุณ เมื่อคุณดื่ม เธอจะ
อารมณ์เสีย เป็นเพราะเธอกังวลว่าจะไม่มีใครดูแลคุณ และกลัว
ว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับคุณ

เมื่อคุณไม่ชอบอาบน้ำ เธอจะโกรธมาก เป็นเพราะเธอหวังว่า
คุณจะมีวิถีชีวิตที่สะอาดและสามารถมีสุขภาพดีได้ แม้คุณจะ
ฟังเสียงของเธอเป็นเพียงแค่ลมพัด เธอจึงต้องอารมณ์เสียใส่
คุณเพื่อหวังว่าคุณจะจดจำเรื่องเหล่านั้นไว้ในใจและตั้งใจทำ
อย่างจริงจัง
แต่คุณทำตัวยุ่งเสมอ เธอก็จะอารมณ์เสียได้ง่าย ก็เป็นเพราะว่า
ไม่มีคนคอยอยู่เคียงข้าง พูดคุย กอดและหอมเธอ ทำให้เธอ
รู้สึกว่ากำลังถูกละเลย
เมื่อคุณลืมวันเกิดเธอ เธอจะโกรธและหัวเสีย นั่นเป็นเพราะว่า
สำหรับเธอแล้ว คุณเป็นคนสำคัญที่สุด เธอไม่ต้องการให้คน
แปลกหน้ามาจดจำวันพิเศษของเธอ แต่ต้องการให้คุณที่เป็น
คนพิเศษจดจำไว้
เมื่อบนตัวคุณมีกลิ่นหอม เธอจะโกรธ นั่นเป็นเพราะเธอแคร์คุณ
เสมอ คุณเป็นทุกอย่างสำหรับเธอ เธอไม่อยากแบ่งปันคุณให้
คนอื่น
มีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่มีผนังสีดำรอบด้านกับใจที่เต้นรัวไม่เป็น
จังหวะ พร้อมด้วยใจร่ำร้องถึงความเจ็บปวดถึงส่วนลึกของ
วิญญาณ ความเหงา ว้าเหว่ และคืนที่มืดสลัวกับความหดหู่ 
และยังมีภาพลวงตาแห่งความสุข ที่ต้องเพ้อเพียงลำพัง
เมื่อคุณกำลังบอกว่าภรรยาอารมณ์ฉุนเฉียว พูดว่าภรรยาไม่ดี
 แต่ที่จริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด นั้นคือการแสดงความห่วงใย
คุณ
สามีคนไหนที่โดนภรรยาดุบ่อยๆ อย่าเพิ่งน้อยใจนะคะ เพราะ
หากเธอเป็นแม่ที่ดี ดูแลคุณอย่างดี คุณก็เป็นสามีที่โชคดีมากๆ
แล้ว

จงรักคนที่ส่งเสริมสนับสนุนเรา ไม่ใช่แค่รักกันไปวันๆ


ใครทำให้ชีวิตเราดีขึ้น ก็จงเลือกอยู่กับคนนั้นแหละ ไม่ว่าจะ
เรียนดีขึ้น งานดีขึ้น

หรือมีทัศนคติที่ดีขึ้นไม่ใช่รักไปแล้วมีแต่เรื่องทุกข์ใจ หรือ
ความระแวงเลือกรักคนที่อยู่ด้วยแล้วเป็นตัวเองไม่ใช่

เปลี่ยนแปลงเพื่ออีกฝ่ายไปเสียหมดอย่าพยายามเป็นอีกคน
เพียงเพราะต้องการให้เขารักเรามากขึ้นเราเองก็ต้องเข้าใจ

ด้วย ว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบขนาดนั้นเลือกคนที่ให้ความ
สบายใจกับเราได้ตลอด



ไม่ว่าจะเรื่องใดก็ตามจะไม่มีการระแวง กังวล จนพาชีวิตเราจม
อยู่กับความรู้สึกแย่ๆ จนเสียเวลาชีวิตหรือเลือกคนที่ให้กำลังใจ
ส่งเสริมความฝันกันและกัน

ไม่ใช่แค่รักกันไปวันๆถ้าเจอแล้วก็จงรักษาให้ดี ประคองไว้ให้
นานโตแล้ว มีความรักก็อยากให้มันทำให้ชีวิตก้าวหน้าไม่ใช่มา
เสียน้ำตาร้องไห้ทุกวัน

มันดูไม่รักตัวเองเอาซะเลยอย่าหลอกตัวเอง ว่าแบบนั้นมันคือ
ความรักรักตัวเองให้มากๆ ทุกคนสมควรจะได้เจอความรักที่
แสนดีทั้งนั้นแหละอ้อ..


กอดคนข้างๆ ไว้ให้แน่นๆ ด้วยนะ ถ้าคิดว่าเป็นคนที่ใช่แล้ว

วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

6 สิ่งที่คนขับรถเกียร์ธรรมดาไม่ควรทำ


รถเกียร์ธรรมดานั้นค่อนข้างจะขับยากกว่าเกียร์ออโต้ แต่ว่ารุ่นเก่า ๆ ก็มีรุ่นเกียร์ธรรมดาเยอะ สมัยนี้ก็ยังมีอยู่ เวลาขับจะมีหลายขั้นตอนกว่าออโต้มาก และมีหลายอย่างเลยที่ห้ามทำสำหรับรถเกียร์แบบนี้เพราะว่าอาจจะทำให้สภาพรถเสื่อมสภา พเร็วขึ้น อายุการใช้งานรถสั้นลง ที่สำคัญคือเวลาขับขี่แล้วมัน อันตรายนั่นเอง มาดูกันว่า สิ่งที่คนขับรถเกียร์ธรรมดาไม่ควรทำ มีอะไรบ้างซึ่งมีหลัก ๆ ทั้งหมด 6 อย่ างนี้
1 ห้ามแช่มือไว้ที่คันเกียร์
มักจะเห็นหลายคนแช่มือไว้ที่คันเกียร์ อาจจะใช้พักแขน แต่รู้ไหมว่าหากทำแบบนั้นอาจจะทำให้คันเกียร์ เ สื่ อ มสภาพได้ แถมยังจะเ สี่ ย งมากที่อาจจะเผลอไปโยกเกียร์แบบไม่ได้ตั้งใจก็ได้ ทางที่ดีเอามือไปจับพวงมาลัยทั้ง 2 ข้างเลยจะดีกว่า
2 ไม่ควรจะค้างเกียร์เหยียบคลัทช์ตอนติดไฟแดง
ถ้าใครที่ชอบขับเย่อเท้าซ้ายแนะนำควรเลิกทำได้แล้ว คลัทช์ยั้ยคือตัวตัดกำลังสำหรับเครื่องยนต์เกียร์ธรรมดา แต่ถ้าใช้ผิดวิธี เช่นการเหยียบตอนติดไฟแดง เพื่อพร้อมจะออกตัวทันที ถ้าแบบนั้นจะทำให้ครัทช์เสียเร็ว ฉะนั้นควรเลิกและจอดให้ดีจะดีกว่า

3 ทางชันอย่าใช้คลัทช์หยุดรถ
เวลาจะหยุดรถบนทางชันนั้นหลายคนมักจะเย่อคลัทช์เข้าออกเพื่อให้รถไม่ไหลกลับด้านหลังและสามารถออกตัวได้ตลอด แต่รู้ไหมว่าการทำแบบนี้จะทำให้คลัทช์พังเร็วเอาง่ายมาก ๆ เนื่องจากผ้าคลัทช์ได้รับการ เ สี ย ด สีมากไป พอทำแบบนี้นาน ๆ มันก็สึกหรอไปนั่นเอง ทางที่ดีควรทำให้ถูกหลักดีกว่าเป็นการถนอมรถไปในตัวด้วย
4 การเปลี่ยนเกียร์ลงเมื่อจะเร่ง
ซึ่งบอกเลยว่าแบบนี้มันผิด หากต้องการอั ต ร า เ ร่ ง ก็ควรเปลี่ยนอัตราทดเกียร์ให้สูงขึ้น หรือเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำให้อัตราเร่งที่มากขึ้น หากเหยียบแช่ไว้จะทำให้อัตราเร่งช้าลงและคลัทช์ยังทำงานหนักมากอีกด้วย โดยเฉพาะการขับในความเร็วแบบทั่ว ๆ ไป ฉะนั้นก็ต้องระวังกันด้วย

5 อย่าเลียคลัทช์
หลายคนมักจะแช่เท้า เ ลี ย คลัชท์เอาไว้ อาจจะพักเท้าแต่ว่ามันไม่ควรเลยเพราะว่าการทำแบบนั้นเผลอ ๆ จะทำให้เหยียบลงไปแบบไม่รู้ตัว ซึ่งอาจจะทำให้คลัทช์ไหม้ได้ แล้วก็ใช้งานไม่ได้เลยจะต้องเสียเงินซ่อมอีกด้วย

6 เวลาจอดทางชันอย่าค้างเกียร์
เวลาจอดจะต้องปลดในตำแหน่งเกียร์ว่างเสมอ หากค้างเกียร์ในทางชันแรงดึงดูดจะพยายามทำให้เกียร์ไหลได้เลย และทำให้เสียอีกด้วยอันตราย มากอีกด้วยอาจจะไปชนคันข้างหลังได้เลย ฉะนั้นควรจะจอดให้ถูกวิธี การทำแบบนี้จะทำให้รถเ สื่ อมสภาพเร็วอีกทั้งยังอันตรายต่อคนขับรถอีกด้วย
สำหรับใครที่ขับรถเกียร์ธรรมดา อย่าลืมศึกษาวิธีการขับรถให้ถูกต้องรวมถึงการจอด การใส่เกียร์ตามทางรูปแบบต่าง ๆ จะได้ไม่ทำให้รถเสื่อมสภาพเร็ว และยังปลอดภัยอีกด้วย
เรียบเรียงโดย 108archeepparuay

วันจันทร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

6 ข้อดีของการเป็นคนใจนิ่งๆ คนนิ่งๆเขารู้อะไรเยอะกว่าที่เราคิด


พอโตยิ่งรู้สึกว่าบางเรื่องอยู่เงียบๆ ดีที่สุด พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น และในบางเรื่อง ให้ทำเป็นนิ่งๆ เฉยๆ อย่ าโวยวาย ไม่แสดง
ความรู้สึก อะไรออกไปมากมายมีความสุขให้มาก การแสดงออกเวลารู้สึกไม่พอใจ มันไม่ใช่ ทางออกที่ดีเสมอไปอย่
 าได้เอาความโกรธ เพียง ชั่วคราวไป แลกเปลี่ยนกับความรู้สึกดีๆที่เขามีให้ต้องใช้สติให้มากขึ้น พิจารณาทุกเรื่องให้ดี ก่อน
พูด ก่อนคิดก่อนตัดสินใจอะไรลงไป 6 ข้อดี จากการเป็นคนนิ่งๆ
1. ไม่ต้องวุ่นวายกับใครให้เหนื่อยเลย
คนอื่นเห็นก็รู้สึกว่าเป็นคนนิ่งๆ ไม่น่าสนใจ จึงไม่ค่อยตกเป็นเป้าสำหรับการนินทา
เพราะดูเป็นคนนิ่งๆ ดูน่าเกรงขาม เช่นนี้เรียกว่า คมในฝัก เสือซ่อนเล็บ หรือ อะไรก็ตาม แต่คุณจะไม่ต้องไปวุ่นวายอะไรให้เหนื่อยใจเลยจริงๆ

2. ชีวิตไม่ต้องเสี่ยงกับดราม่า
การเป็นคนที่พูดเยอะเผยความในใจมากไป คนอื่นก็จะรับรู้เรื่องของเราเยอะไปด้วย
มีอะไรก็โพสต์ลงในโซเชียล โดยเฉพาะด้านแ ย่ๆ เหมือนเป็นการ ระบายอารมณ์ได้ดีก็จริงแหละ
แต่ มันก็จะนำพาความรู้สึกที่ไม่ ดี ที่มีคนเข้ามาอ่ านเจอด้วยเช่นกันนะและอาจมีประเด็นที่อาจจะก่อให้เกิดข้อพิพ าท
ฉะนั้น แล้วการเป็นคนเรียบๆ ไม่แสดงออกอะไรมากมาย ก็จะเลี่ ยงปัญหาที่จะมีกับคนอื่นๆ ได้ในระดับหนึ่ง
เช่นเดียวกัน นับว่าเป็นข้อดีที่สำคัญมากอีกข้อหนึ่งก็ว่าได้
3. เก็บความรู้สึกเก่ง
คนนิ่งๆ ถือว่าจัดการ อารมณ์ของตนได้ดี และอาจจะมีหนทางดีๆ เตรียมไว้เอาคืนที่ดีกว่าการ ด่ า
การใช้ความรุนแรงด้วยก็ได้ ใครเป็นศัตรูก็รับมือได้ด้วยลำบากแน่นอน
เพราะคนนิ่งๆ นี่อ่ านความรู้สึกยากจริงๆ น่ากลัวกว่าคนที่ชอบเหวี่ ยงชอบวีนเยอะเลยนะ

4. ครองสติได้ดี
การที่เป็นคนนิ่งๆ เขาจะหยุดคิดอย่ างรอบคอบก่อนที่จะทำอะไรไปเสมอ การควบคุมตนเองได้แม้ใน ยามโกรธ
ถือว่าเป็นข้อดีมากถ้าใจร้อนข าดสติอาจเผลอทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรลงไป กลายเป็นการเข้าใจผิดกัน
5. คนอื่นคาดเดาได้
ยากการคาดเดาได้ ยากทำให้คนมองเราไปอีกแบบ ก่อนที่เขาจะทำอะไรก็จะคิดเยอะ
และมีความเกรงใจเราอยู่ฉะนั้น นิ่งๆ ไว้ก่อน ทำให้มีความเกรงใจซึ่งกันและกัน

6. คนอื่นเขาเกรงใจ
ไม่กล้ายุ่งด้วย เนื่องจากเป็นคนนิ่งๆ จึงยากจะคาดเดา ทำให้ดูเป็นคนที่เยือกเย็น สุขุมดูเป็นผู้ใหญ่กว่าคนอื่น
คนส่วนใหญ่เลยขอไม่ยุ่งจะดีกว่านี่แหละประโยชน์ของการเป็นคนนิ่งๆ การนิ่งไว้ก่อนไม่ชิงโวยวายมาดดูเป็นผู้ดี
และพร้อมรับกับสถานการณ์ได้เหมาะสมกว่ากันเยอะ เรียกว่า นิ่งสงบ สยบทุกความเคลื่อนไหวเลยจริงๆ

วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

ทำบ้านให้เป็นวัดก็บรรลุธรรมได้เช่นกัน อ่านเตือนสติ


ทำบ้านให้เป็นวัดก็บรรลุธรรมได้เช่นกัน อ่านเตือนสติ
มีคำถามจากคุณยายท่านหนึ่ง ถามว่า คุณแม่อายุ 76 แล้ว ไม่สะดวกไปอยู่วัด
จะภาวนาที่บ้านต้องเริ่มต้นอย่างไร..? “อาจารย์ได้ตอบว่า ถ้ามาวัดไม่ได้ก็ให้เปลี่ยนบ้านเป็นวัด


หลายๆคนมักเข้าใจ ว่าการเข้าวัดทำบุญ คือการทำให้บรรลุธรรมแต่นั่นถูกเพียงครึ่งเดียว
เพราะเมื่อออกจากวัดเราก็ต้องนำธรรมะไปด้วยในทุกที่ ไม่ใช่เข้าวัดปฏิบัติธรรมแล้วพอกลับไปบ้าน
ก็ไม่รักษาศีลยังคงควบคุมจิตใจของตนเองไม่ได้อย่างนั้นที่ไปวัดก็สูญเปล่า
การฝึกปฎิบัติธรรมที่บ้าน หากทำได้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะในสภาพแวดล้อมเดิมๆ
ไม่สงบมีแต่ความวุ่นวาย มีแต่ปัญหา หากเราสามารถควบคุมสติ สมาธิและ รักษาระดับจิตใจ
ให้อยู่ในระดับปกติได้จึงถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเหมือนได้ฝึกใช้ธรรมะในชีวิตประจำวันไปในตัว

เมื่อเปลี่ยนบ้านเป็นวัดได้แล้วก็ทำการเจริญสติอย่างต่อเนื่องรักษาศีลแต่การจะทำอย่างนี้
อยู่ที่บ้านได้นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ยาก เพราะ คนส่วนใหญ่ที่อยู่บ้านเขาก็ไม่ค่อยรักษาศีลกันหรอก
มักจะชอบทำอะไรตามอารมณ์ตัวเองซะมากกว่า
อยากทำอยากกิน อยากดู หรืออยากจะฟังอะไรก็ทำไป
ซึ่งการเข้าวัดจึงเปรียบเหมือนมีครู
คอยช่วยชี้แนะให้เริ่มต้นอาจจะต้องลองอยู่คนเดียวให้ตัวเราออกมาจากที่ที่คนเยอะๆ
ไม่ให้มีเสียงเข้ามารบกวนเราได้อย่างโยมที่เป็นลูกศิษย์หลวงตา
เขาเคยมาอยู่ที่วัด พอออกจากวัดก็ได้ไปสร้างห้องปฏิบัติธรรมในบ้านของตัวเอง

และ เขียนป้ายติดเตือนสติตัวเองไว้ว่า…!!‘ที่นี่เป็นวัด’ แล้วก็นั่งภาวนาถือศีลอยู่ในบ้าน
ถ้าเราไม่สะดวก ไปวัดไม่ได้เราก็สร้างวัดขึ้นมาในบ้านเราก็ได้
วัด หมายถึง สถานที่ที่สงบเพื่อเอาไว้บำเพ็ญเพียร ถือศีลในสมัยพระพุทธเจ้าที่ยังไม่มีวัด
กับวัดสมัยก่อนก็คือ ในป่าเขา ป่าเขานี่แหละคือวัดของพระทั้งหลาย พระทั้งหลาย
มักจะไปบรรลุมรรคผลนิพพานในวัดเช่นนั้นหลวงปู่มั่นก็ไปบรรลุธรรมที่ป่าของเชียงใหม่
ไม่มีใครที่จะไปบรรลุธรรมในบ้านกันหรอกนะ น้อยคนจริงๆ
ดังนั้นถ้าเราอยากจะอยากจะปฏิบัติธรรมบรรลุธรรม ก็ต้องหาที่เป็นวัดจริงๆถ้าหาไม่ได้
ก็ต้องสร้างวัดจริงๆขึ้นมาในบ้านเรานี่แหละ แล้วคอยดูใจของเราการควบคุมจิต
ควบคุมความอยากของตัวเองได้ ทำให้จิตใจสงบได้ก็จะบรรลุธรรมได้เช่นกันเพียงแต่ต้องมีจิตใจ
ที่เข็มแข็ง  กับสิ่งรอบตัวสุดท้ายแล้ว สิ่งที่จะทำให้เราสามารถบรรลุธรรมได้นั้น
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่วัดวาอารามใดๆ แต่มันขึ้นอยู่ที่จิตใจของเราล้วนๆ

ถ้าใจเราปล่อยวางได้รู้ทันรัก,โลภ,โกรธ,หลงบังคับตัวเองได้ สงบได้ ก็บรรลุธรรมได้
แต่ถ้าหากใจเรายังไม่สงบถึงจะภาวนาศีลอยู่ในวัดยังไงก็ไม่มีทางถึงธรรมได้ความสงบในจิตใจนั้น
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่หากขึ้นอยู่กับการวางใจแม้อยู่ผู้เดียวในห้อง
ก็อาจจะวุ่นใจได้หากไม่รู้เท่าทันความคิด
ขอบคุณแหล่งที่มา yakrookaset

ศีลไม่ได้อยู่ที่พระ ธรรมะไม่ได้อยู่ที่วัด



แก่นแท้ของชีวิต ศีลไม่ได้อยู่ที่พระ

๑. ศีลไม่ได้อยู่ ที่พระ ธรรมะไม่ได้อยู่ที่วัด เงินไม่ได้อยู่ที่เศรษฐี แต่ศีลอยู่ที่ กายใจของเรา ธรรมะอยู่ที่สติ และเงินอยู่ ทุกที่ที่มีความขยัน


๒. โลกเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเราใส่แว่นตาสีอะไรมองโลกหากมองโลกดี ชีวิต จะมีแต่ สิ่งรื่นรมย์ หากมองโลกร้าย ชีวิตจะมีแต่วุ่นวายและทุกข์ระทม


๓. จงดึงเอาความรู้สึกผิด ที่เรามีมาเป็นแรงบันดาลใจให้ทำดียิ่งๆ ขึ้นฃอย่าจมอยู่กับอดีตมีแต่การสร้ๅงตัวเองใหม่เท่า นั้นที่จะหลุด พ้นจากความ รู้สึกผิด


๔. ความสุข ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความมี แต่อยู่ที่เราค้นพบว่าอะไรคือ แก่นแท้ของชีวิต แล้วอยู่กับสิ่งนั้นด้วยความรัก คนนั้นก็คือ คนมีความสุข




๕. ยามใดที่ชีวิตพบกับความทุกข์หากไม่มัวแต่ เป็ นทุกข์ ทว่าเรียนรู้ที่จะมองดูความทุח ข์อย่างมีสติ อย่างแยบคายอย่างเป็ น ผู้ดูไม่ได้เป็นผู้เป็น ความทุกข์ ก็จะทอประกายแห่งความสุข ออกมาให้เห็น

๖. ในเมื่อไม่มีสิ่ง ที่เราช อบ เราก็ควรชอบสิ่งที่เรามี เพราะในโลกนี้ไม่มีใครได้ทุกสิ่งอย่างใจหวัง และจะไม่มีใครพลาดหวัง ทุกอย่างไปทุกสิ่งทุก อย่างที่เราจะทำ มีแง่ดีแง่งามอยู่เสมอ  ขอให้เรามองให้เห็นถ้ามองเห็นเรา ก็จะเป็นสุขกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า


๗. ในโลחแห่งความเป็นจริง คนทุกคนก็เป็นครูได้ คนเก่งไม่ เก่ง ฉลาดรู้หนังสือ ไม่รู้หนังสือ ยากดีมีจนสัตว์ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมเหตุ การณ์ ดิน ฟ้า อากาศ ความผิ ดห วัง ความสม  หวัง ความรัก ความชัง ฯลฯ เหล่านี้ คือครูในมหาวิทยาลัยชีวิต ที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ ศึกษากันไปอย่างไม่มีวันจบ



๘.  อย่าแบกอะไรที่เกินกำลังของ ตัวเอง เพราะไม่เพียงแต่มันจะทำให้เราเป็นทุกข์ แต่บางทีอาจมีผลต่อการยืนตรงๆ อย่างยาวนาน ขอ งเราด้วย


๙. เรื่องบางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ควรทุกข์ แต่พอ เราไม่ ยอม ปล่อยวาง ทุחข์ก็รุกคืบเข้ๅมาเรื่องบางเรื่องใครต่อใคร ก็เห็นอยู่ว่า ทุกข์หนักหนาสาหัสแต่สำหรับคนที่ปล่อยวางเป็น ก็เป็นสุข คือ ความสุขหรือ ความทุกข์ บางครั้งอยู่ที่ “ท่าที” ในการเผชิญของเราเ ป็นสำคัญ ถ้า “รู้เท่าทัน” สิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างมีสติ ทุกข์อาจกลๅย เป็นสุข, ปัญหาอาจกลายเป็น ปัญ ญา , วิกฤติอาจ ถูกแปรเป็นโอกาส




๑๐. ความล้มเหลวเป็นส่วนผสมของชีวิตซึ่งขาดไม่ได้ คนที่ไม่เคยล้มเหลวคือ คนที่ไม่เคยทำอะไรด้วยข้อเท็จจริงเช่นนี้ คนที่กำลังคิดการใหญ่ทุกคนจึงมองความล้มเหลวด้วยสายตาที่เป็นบวก เพราะเขารู้อยู่แก่ใจว่า ความล้มเหลวเป็นฝาแฝดกับความสำเร็จ

เกิดราศีมังกร ปีชวด วันจันทร์ ปี 2024 ต้องทำแบบนี้ รวยแน่นอน

       คนเกิด วันจันทร์ ปีชวด ราศีมังกร    คุณรู้ตัวหรือเปล่าคะว่า คุณเป็นคนเก่ง มีความสามารถ  ดานิตา พยากรณ์ ขอแนะนำนะคะ ปี 2024  คุณต้องคิ...